Cat & Dog Room 7 ข้อควรรู้ก่อนทำห้องสัตว์เลี้ยง
13 Jan, 2022 / By
jumpfitt
1. มีการวางโซน / แปลน
การเลี้ยงระบบปิด คือ การให้สัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบริเวณบ้านเท่านั้น เพื่อป้องสัตว์เลี้ยงจากโรคต่าง ๆ หมัด เห็บ อุบัติเหตุ และการสูญหาย เจ้าของบ้านสามารถแบ่งโซนว่าจะให้สัตว์เลี้ยงเข้าออกได้ถึงส่วนไหน และที่ใดบ้างห้ามเข้า สำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากพอ ก็สามารถสร้างห้องส่วนตัวให้สัตว์เลี้ยงอย่างเป็นสัดส่วนได้อีกด้วย
2. มีอากาศถ่ายเทสะดวก
พื้นที่ของสัตว์เลี้ยงควรจะมีหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท ลดความชื้น โดยเฉพาะในห้องที่มีกระบะทรายสำหรับแมว ห้องน้ำสุนัข และกรงกระต่าย หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ที่มีกลิ่นแรง การทำหน้าต่างห้องสัตว์เลี้ยงนั้น ควรติดมุ้งลวดกันยุง และมีล็อคที่แข็งแรงแน่นหนา เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าตัวเล็กแสนรู้แอบออกไปนอกบ้านขณะที่เราไม่อยู่ และยังป้องกันยุงและสัตว์ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ เข้ามาในบ้านอีกด้วย
3. พื้นไม่ลื่น
เจ้าของสัตว์เลี้ยงสี่ขาอาจมีความกังวลเกี่ยวกับ “ความลื่น” เพราะ สำหรับคนแล้วพื้นที่ปูด้วยกระเบื้อง แกรนิโต้ หรือหินอ่อนที่เรียบ ๆ เงาวาวทำให้บ้านดูสวยงาม แต่เจ้าสี่ขาของเรากลับต้องเกร็งขาขณะที่เดินหรือวิ่ง จึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกสะโพกเสื่อมจากการเดินบนพื้นลื่นบ่อย ๆ โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวมาก จึงควรใส่ใจในการเลือกวัสดุปูพื้นสักนิด เลือกใช้วัสดุที่ไม่ลื่น เช่น กระเบื้องที่มีความสาก กระเบื้องยาง ไม้ หรือวัสดุทดแทนไม้ อื่น ๆ ที่ยังคงได้ผิวสัมผัสคล้ายกับไม้ ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้อย่างไม้พื้นไฟเบอร์ซีเมนต์ เฌอร่า ก็มีลวดลายต่างๆ ให้เลือกสรรตามความต้องการ ด้วยลายไม้ชัยพฤกษ์หรือลายเสี้ยน และที่สำคัญก็ควรหาโอกาสพาน้องหมา น้องแมว ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน บนพื้นดิน หรือสนามหญ้าเป็นประจำ เพื่อให้มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
Jump ผู้นำด้านกระเบื้องยางเรามีกระเบื้องยางสำหรับปูห้องน้องหมา/น้องแมวโดยเฉพาะ หากสนใจผลิตภัณฑ์สามารถสอบถามแผนกขายของเราได้ทันที
4. ผนังเรียบ
ผนังที่เรียบมีข้อดี 2 ข้อ คือ ทำความสะอาดได้ง่าย และติดตั้งชั้นวางให้ปีนป่ายบนผนังได้ง่าย ควรเลือกใช้วัสดุที่เรียบ แข็งแรง ไม่ควรมีรู ร่อง และซอกมุมเยอะ ๆ เพราะจะกลายเป็นจุดเก็บฝุ่นและเศษขนของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่มีขนยาว
5. สวยแม้มีรอยขีดข่วน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เจ้าตัวเล็ก” ที่น่ารักของเรา จะกลายเป็น “เจ้าตัวแสบ” ทันทีเมื่อมีการสร้างร่องรอยจากการเล่นสนุกไว้บนพื้นและผนัง จึงควรเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี แข็งแรง ลดการซ่อมแซมจากร่องรอยของการวิ่งเล่น บิดขี้เกียจ ตะกุยพื้นของน้องหมา หรือโยคะหลากท่าของเจ้าแมวโยคี เพราะไม้พื้นเฌอร่ารุ่นคัลเลอร์ทรู มีสีในเนื้อ ถึงเจอรอยขีดข่วนก็ยังสวยอยู่
6. ทนต่อการทำความสะอาด
การทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงนั้น ทั้งถี่และต้องมีตัวช่วย เช่น น้ำยาทำความสะอาด น้ำยาฆ่าเชื้อ ยาพ่นฆ่าหมัดและเห็บ (เฉพาะกรณีที่มี) และเพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคนและสัตว์เลี้ยงจึงควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง การเลือกใช้วัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ไม่บวม ลอกล่อน ผุกร่อน หรือบิดงอ จึงเป็นอีกข้อสำคัญที่ควรคำนึงถึง อย่างวัสดุทดแทนไม้ ที่นอกจากจะทำความสะอาดง่ายและมีความทนทานแล้ว ตัววัสดุยังยังไม่อมความชื้น ไม่อมเชื้อโรคด้วย จึงสามารถรักษาให้บ้านสะอาด ปลอดเชื้อต่างๆ ได้
7. ดัดแปลง
เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นก็อาจจะไม่ใช่ของเจ้าของบ้านเพียงผู้เดียว แต่สามารถนำไปดัดแปลงเพื่อความสวยงามของบ้าน เช่น นำโต๊ะข้างโซฟามาทำเป็นที่นอนน้องหมา นำแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์มาทำเป็นชั้นวางหนังสือและยังเป็นที่นอนกลางวันของเจ้าเหมียวได้อีกด้วย หรือการจัดแต่งพื้นที่ภายนอกบ้านให้เป็นชานนั่งเล่น ที่ๆ ทั้งคุณและเจ้าตัวน้อยทั้งหลายจะสามารถผ่อนคลาย วิ่งเล่น และใช้เวลาร่วมกันได้